รมต.นลินี ปลุกพลังวัยรุ่น กด like กองทุนสตรี เตรียมพร้อมนับถอยหลังโอนเงินสู่จังหวัดสิ้นเดือนก.ค.นี้ (16/7/2012)
นางนลินี ทวีสิน รมต.นร. ประธานกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นประธานพิธีเปิดงาน “รวมพลังวัยรุ่นไทยกด like กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” พร้อมเชิญชวนคนรุ่นใหม่ร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมในการช่วยเหลือและดูแลสตรีและเข้าไปกด like ที่ Fanpage ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
วันนี้ (16 ก.ค.) เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมวิทยาลัยราชพฤกษ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมคณะ เดินทางไปเป็นประธานพิธีเปิดงาน “รวมพลังวัยรุ่นไทยกด like กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” และกล่าวปาฐกถาพิเศษ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และอธิการบดีวิทยาลัยราชพฤกษ์ ให้การต้อนรับ ซึ่งภายในงานมีนักเรียน นักศึกษา และสตรีจังหวัดนนทบุรีมาร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน
เมื่อเดินทางถึง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีชมการแสดงลำตัด ชุด กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จากนักเรียนโรงเรียนไทรน้อย จากนั้น รองอธิการบดีวิทยาลัยราชพฤกษ์ กล่าวต้อนรับ และนายดุลยเดช วัชรสินธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน
โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ จ.นนทบุรีได้จัดงานนี้ขึ้น เพราะความจริงแล้ว รัฐบาลมีนโยบายจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อให้กองทุนนี้เป็นของสตรี โดยสตรี และเพื่อสตรีทุกคน เพียงลงทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ เพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การช่วยเหลือ พัฒนา และสร้างศักยภาพของสตรีทุกคน รวมถึงคนในครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม โดยเปิดโอกาสให้สตรีที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป ซึ่งนับเป็นช่วงวัยที่เริ่มมีวุฒิภาวะ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีพลังพอที่จะช่วยขับเคลื่อนชุมชนและสังคมได้ ซึ่งที่ผ่านมาสตรีที่ลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นสตรีวัยแรงงานไปจนถึงผู้สูงอายุ ดังนั้น การรวมพลังของคนรุ่นใหม่ในจ.นนทบุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดนำร่องในการสร้างกระแสความตื่นตัวของวัยรุ่นที่ให้ความสนใจกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีครั้งนี้ จึงมีประโยชน์ในการสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งจะเป็นตัวอย่างให้แก่จังหวัดอื่นๆ ด้วย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันในสังคมเกิดปัญหาความรุนแรงในครอบครัว และการกดขี่ทางเพศต่อเด็กและผู้หญิงเพิ่มขึ้น และยังพบว่า ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และทำแท้งมีช่วงอายุที่น้อยลง ขณะที่อัตราการตั้งครรภ์และทำแท้งเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจึงเป็นช่องทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่สตรี ทั้งปัญหาการดำเนินชีวิต ปัญหาความไม่เสมอภาค ขาดโอกาสในสังคม การตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง และการกดขี่ทางเพศ นอกจากนี้ ยังจะเป็นเครื่องมือให้สตรีทุกคนรวมถึงยุวสตรีได้ใช้พัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ” น้องๆ ทุกคน อาจจะเคยเห็นว่าในจังหวัด อำเภอ ชุมชน หรือแม้แต่ในโรงเรียนของเรา มีการรวมกลุ่มกันเพื่อทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่น มีการจัดตั้งชุมนุมหรือชมรมอาสาบำเพ็ญประโยชน์ เพื่อนช่วยเพื่อน ชมรมพัฒนาทักษะด้านภาษา คุณธรรมจริยธรรม หรือชมรมฝึกอาชีพ เป็นต้น
ซึ่งหลายครั้งต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากทางโรงเรียนหรือผู้มีจิตศรัทธาสมทบเงินเข้ามาเพื่อเป็นทุนใช้ในการทำกิจกรรม แต่นับจากนี้ ทุกคนจะมีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว ดูแลสุขภาพ เพิ่มทักษะความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายด้านๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่คนไทยทุกคนจะต้องเตรียมความพร้อมเพื่อปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาที่ถูกกำหนดให้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารระหว่างประเทศสมาชิก หรือการเรียนรู้วัฒนธรรมและการดำเนินชีวิตของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งน้องๆ สามารถใช้ประโยชน์จากกองทุนนี้ในการฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ทุกคนวางแผนร่วมกันได้ โดยรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนท้าย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้ฝากถึงสตรีไทยทุกคน ขอให้เตรียมรวมกลุ่มกัน 5 คน เพื่อเสนอโครงการขอรับทุน รวมถึงองค์กรสตรีด้วย ส่วนผู้ที่ต้องการรับทราบข่าวสารความเคลื่อนไหวของกองทุนฯ ยังสามารถลงทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเข้ามามีส่วนร่วมเป็นพลังขับเคลื่อนสังคมในการช่วยเหลือและดูแลสตรี โดยติดตามข่าวสารของกองทุนฯ ได้ทางเว็บไซต์ www.womenfund.thaigov.go.th และเข้าไปกด like ที่ Fanpage ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
ด้านนางสาวชนกานต์ ไหลหลั่ง นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการนนทบุรี กล่าวว่า รู้สึกประทับใจที่ได้มาร่วมงานวันนี้ ส่วนตัวมองว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นให้เยาวชนเห็นความสำคัญของสิทธิ ส่งเสริมความเท่าเทียมกันระหว่างหญิงชาย นอกจากนี้ ทำให้เด็ก ๆ ได้รับรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แม้ว่าตนเองจะทราบเรื่องของกองทุนฯ เล็กน้อย แต่จะกลับไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อใช้ประโยชน์จากกองทุนฯ ต่อไป
ส่วนนางสาวสุพัตรา บำเพ็ญเพียร จากโรงเรียนเดียวกัน กล่าวเช่นเดียวกันว่า มีความประทับใจเพราะกิจกรรมไม่น่าเบื่อ ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของสตรีในสังคม ในอนาคตเมื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนฯ แล้ว อยากจะทำโครงการเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกข่มเหงรังแก
โครงการ “รวมพลังวัยรุ่นไทย กด like กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ครั้งนี้ ยังมีการบรรยายให้ความรู้แก่เยาวชน เรื่อง การขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของจ.นนทบุรี และการจัดนิทรรศการเผยแพร่ข้อมูลของกองทุนฯ การแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัล OTOP รวมทั้งการเปิดรับลงทะเบียนสมาชิกกองทุนฯ และการกด like ใน fanpage ของกองทุนฯ ด้วย
สำหรับการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของรัฐบาล ขณะนี้มีสตรีให้ความสนใจเข้าเป็นสมาชิกแล้วกว่า 13 ล้านคน และยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน ตลอดจนได้มีการคัดเลือกคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับตำบล จังหวัด และกรุงเทพมหานครแล้ว เหลือเพียงการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเพิ่มเติมในทุกระดับ และการแต่งตั้งคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับชาติ เพื่อนำไปสู่การโอนเงินให้แก่จังหวัดเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท ต่อไป โดยรัฐบาลกำหนดจัดพิธีกดปุ่มโอนเงินไปให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีดังกล่าว ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มีนิทรรศการให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
-------------------------------
อิทธิเดช สุพงษ์ สำนักโฆษก รายงาน
คณะทำงาน รมต.นร.
สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
กรมการพัฒนาชุมชน ชั้น ๓ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
งานยุทธศาสตร์และแผนงาน 02-1413092 งานอำนวยการ/บุคคล 02-1413088 งานการเงินและบัญชี 02-1413077 งานกฏหมาย 02-1413056 งานเครือข่ายสัมพันธ์ 02-1413095 งานพัฒนาระบบเทคโนโลยี 02-1416537
สำนักงานเลขานุการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร 02-1413096 | This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ดำเนินการโดย สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน |