วันที่ 9 มีนาคม 2566 เวลา 09.00 น. ณ โรงแรมหาดทรายทอง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
เป็นประธานในพิธีเปิดประชุมเชิงปฏิบัติการคณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับภาค รุ่นที่ 3 ภาคกลาง พร้อมให้เกียรติบรรยายหัวข้อ “พลังสตรีกับการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 10 มีนาคม 2566 โดยมี นางพัชรินทร์ พานำมา ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาศักยภาพกองทุน กล่าวรายงาน วัตถุประสงค์ในการดำเนินการประชุมเพื่อส่งเสริมความรู้ให้คณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับภาค สามารถขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ วิธีการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของคณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับภาค กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ภาคกลาง (26 จังหวัด) จำนวน 83 คน ประกอบด้วย หัวหน้าและคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด ๆ ละ 2 คน นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด ๆ ละ 1 คน และเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
นายสุรพล แก้วอินธิ กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของสตรีไทย คือ การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีความรักและความปรารถนาดีแก่พสกนิกรชาวไทย เพราะทุกพระองค์ทรงปรารถนาอยากให้พวกเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยการทำหน้าที่ของสตรีไทยที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานไว้อย่างชัดเจน 4 ประการ คือ 1) พึงทำหน้าที่เป็น “แม่ที่ดีของลูก” เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก ให้ความรัก ความอบอุ่น ดูแลให้ลูกหลานของเราได้เติบโตมีคุณภาพ เป็นคนดีของสังคม 2) พึงเป็น “แม่บ้าน” ทำหน้าที่ดูแลบ้านของเราให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำให้บ้านมีความน่าอยู่ของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่คนรอบข้างตามสมควร 3) พึงพัฒนาตนเองให้มีความทันสมัย เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง 4) สืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติไทยของเราให้สืบสานส่งต่อไปยังลูกหลานต่อไป ซึ่งทั้ง 4 ประการนี้ ล้วนเป็นหน้าที่สำคัญของสตรีโดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การพัฒนาตนเองให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับสตรีได้มีบทบาทเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น
กรมการพัฒนาชุมชน ขับเคลื่อนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “ความรู้คู่คุณธรรม” ซึ่งต้องรู้รอบ รอบคอบ และระมัดระวัง รวมทั้งการมีคุณธรรม (ความซื่อสัตย์ ความเสียสละ และความรับผิดชอบ) ซึ่งภารกิจหลักของกรมการพัฒนาชุมชนคือ การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง และการสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ผ่านการมีส่วนร่วม 5 ร่วม : ร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ร่วมวางแผน ร่วมลงมือทำ และร่วมรับประโยชน์ โดยการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนภารกิจที่สำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน ไม่ว่าจะเป็น กองทุนแม่ของแผ่นดิน การส่งเสริมและสนับสนุนการสวมใส่ผ้าไทยและเผยแพร่ภูมิปัญญาผ้าไทย (การสนองแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”) โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” การขับเคลื่อนนโยบายการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก นอกจากนี้การขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญของกรมการพัฒนาชุมชนในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่สตรี และส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาศักยภาพและบทบาทของสตรีและองค์กรสตรี โดยการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจำเป็นต้องส่งเสริมอาชีพและช่องทางการตลาดควบคู่ไปกับการบริหารจัดการหนี้ไปด้วย ต้องขับเคลื่อนด้วยความตระหนักในความสำคัญของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่เป็นกองทุนของสตรีเพื่อสตรี การใช้เงินทุนหมุนเวียนและเงินอุดหนุนและมุ่งเน้นพี่น้องสตรีเป็นศูนย์กลางและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทุกขั้นตอน, “การพัฒนาที่ยั่งยืนต้องเกิดจากพื้นฐานความต้องการของประชาชน, “ก้าวไปด้วยกัน” ทั้งชาวพัฒนาชุมชน ภาคีเครือข่ายและพี่น้องประชาชน, ประชาชนลงมือทำ เอกชนขับเคลื่อน ราชการสนับสนุน อีกทั้งจุดเน้นการทำงานของกรมการพัฒนาชุมชน คือ ปรับบทบาทในการขับเคลื่อนงานเพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว, ต้องสามารถบูรณาการเชื่อมโยงภารกิจร่วมกับ 7 ภาคี ที่เปรียบเหมือน (กำปั้น โดยประกอบด้วยนิ้วมือ ดังนี้ นิ้วโป้ง คือ ภาครัฐ ส่วนราชการ นิ้วชี้ คือ ภาคการศึกษาและศาสนา นิ้วกลาง คือ ประชาชน นิ้วนาง คือ ภาคเอกชน และนิ้วก้อย คือ การเกี่ยวก้อยร่วมกับ ภาคประชาสังคมและสื่อสารมวลชน) ที่ใช้ในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และต้องเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนการพัฒนาที่สำคัญเพื่อการพัฒนาที่เข้มแข็งและยั่งยืน
นายสุรพล แก้วอินธิ กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า "การขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนในยุค Thailand 4.0 ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ข้อมูลด้านดิจิทัลในการส่งเสริม สนับสนุนการกำหนดกรอบแนวทางในการขับเคลื่อนงาน การใช้สหวิทยาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการบูรณาการร่วมกันกับภาคีเครือข่าย การขับเคลื่อนงานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตามยุคสมัย การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น การพัฒนาระบบการเงินและบัญชี เพื่อให้ฐานข้อมูลมีความถูกต้อง รวดเร็ว และทันกับการใช้งาน เพื่อให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นกองทุนที่มีธรรมาภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีว่า “กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นกองทุนของสตรีเพื่อสตรี” อย่างแท้จริงและจะมีความยั่งยืนเคียงข้างสตรีให้สตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และขอขอบคุณความทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจของทุกท่านที่ขับเคลื่อนงานเพื่อสตรีในพื้นที่ให้สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและส่งเสริมให้สตรีมีศักยภาพและบทบาทเป็นที่ยอมรับของสังคม"
ภาพ/ข่าว : งานเครือข่ายสัมพันธ์ กลุ่มพัฒนาศักยภาพกองทุน
#๙๐พรรษาสมเด็จแม่ของแผ่นดินร่วมสร้างความดีถวาย
#กรมการพัฒนาชุมชน
#๑๓๐ปีกระทรวงมหาดไทย_บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SDGsforAll
#ChangeforGood
#กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี