ปลัดมหาดไทย บรรยายพิเศษ “เครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม” เน้นย้ำ ต้องทุ่มเทในการสร้างทีมที่ดีเพื่อช่วยขับเคลื่อนบริหารกองทุนให้เป็นที่พึ่ง เป็นที่สร้างโอกาสที่ดีให้กับชีวิตของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทั่วประเทศกว่า 15 ล้านคนให้เกิดความยั่งยืน
กรมการพัฒนาชุมชน โดย สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ดำเนินการจัดโครงการสัมมนาคณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับประเทศ เพื่อส่งเสริมทักษะ ความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแก่คณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับประเทศและเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลสำเร็จ ปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไขและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ที่กำหนดไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดำเนินการระหว่างวันที่ 21 - 22 ธันวาคม 2565 ณ ห้องจูปิเตอร์ 4 - 6 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งวันนี้ (22 ธ.ค. 65) เวลา 10.15 น.ได้รับเกียรติจาก นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษ เรื่อง “เครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม”โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมรับฟัง พร้อมด้วยกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย หัวหน้าคณะทํางานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรระดับจังหวัด/ กรุงเทพมหานคร, คณะทํางานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด/ตําบล/ เทศบาล/เมืองพัทยา/เขต, กลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี,นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัดและกรุงเทพมหานคร/พนักงานกองทุน ที่ได้รับมอบหมาย พร้อมทั้งกลุ่มเป้าหมายจากโครงการพัฒนาระบบบัญชี การเงินและระบบโปรแกรมทะเบียนลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประกอบไปด้วย นักวิชาการพัฒนาชุมชน/นักวิชาการเงินและบัญชี,พนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี รวมจำนวนกว่า 500 คน
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่พวกเราชาวกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้มาพบปะกันเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนกองทุนของแต่ละจังหวัดและชื่นชมให้กำลังใจซึ่งกันและกันในการเดินหน้าทำให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นแหล่งทุนในการส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาศักยภาพของพี่น้องสตรีในพื้นที่จังหวัดตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เพราะกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีความหมายและความสำคัญกับชีวิตพี่น้องสมาชิกกองทุนที่มีความยากลำบากในการประกอบอาชีพ และขาดโอกาสในการลงทุนประกอบอาชีพ ด้วยการเข้าถึงกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ซึ่งเป็นแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เพียงร้อยละ 0.1 ต่อปี หรือแค่ 10 สตางค์ต่อปี บรรยากาศในวันนี้จึงเป็นบรรยากาศแห่งความรัก ความอบอุ่น ความสมัครสมานสามัคคี
"กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะสามารถขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงได้ คณะทำงานขับเคลื่อนฯ จะต้องช่วยกันบริหารจัดการให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นแหล่งทุนสำหรับสตรีที่มีความรับผิดชอบ ต้องเริ่มต้นตั้งแต่ต้นน้ำ คือ การพิจารณาคุณสมบัติของสมาชิกกองทุนฯ ที่รวมกลุ่มกันเพื่อขอกู้ยืมเงินทุนหมุนเวียนและพิจารณาโครงการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งพิจารณาว่าสมาชิกมีศักยภาพหรือไม่ โครงการจะประสบความสำเร็จ เกิดมรรคผลตามที่สมาชิกกำหนดไว้หรือไม่ โดยเมื่อต้นน้ำดี และได้รับเงินทุนหมุนเวียนแล้ว คณะทำงานขับเคลื่อนฯ ก็ต้องลงไปติดตามว่าสมาชิกได้นำเงินไปทำโครงการ ไปประกอบอาชีพได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ เกิดประสิทธิภาพหรือไม่ พร้อมทั้งต้องสร้างการรับรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตนเพื่อให้เป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ดี คือ ต้องรู้จักแบ่งเงินเป็นส่วน ๆ เมื่อมีเงินรายได้ ก็ส่งคืนเงินที่ได้รับการอนุมัติให้ยืมจากกองทุนคืนกองทุน เพื่อให้สมาชิกคนอื่น ๆ อีกจำนวนมากได้มีโอกาสนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ" นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวต่ออีกว่า การขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของแต่ละจังหวัดจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากการที่ทุกคนมีหัวใจที่อยากเห็นพี่น้องกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีโอกาสที่ดีแล้ว ทางราชการตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดจนถึงพัฒนากร ต้องเป็นคนผลักดัน ขับเคลื่อน สนับสนุน ที่จะทำให้หลักการในการบริหารจัดการเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นไปเพื่อการสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัวของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพราะถ้าเรามีผู้นำดี อันได้แก่ หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนฯ ก็จะทำให้งานเป็นไปด้วยความสนุกสนาน สบายใจ และมีความสุข โดยพวกเราทุกคนมีหน้าที่ต้องช่วยกันกระตุ้นปลุกเร้า ทำให้คนที่มีหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ เอาจริงเอาจัง และเมื่อเอาจริงเอาจังแล้ว กระบวนในการตรวจสอบโครงการตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จนถึงจังหวัดก็จะมีคุณภาพ ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไม่มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินไปชำระหนี้แหล่งทุนที่มีดอกเบี้ยสูงกว่า เพราะเงินหมุนเวียนหรือเงินอุดหนุนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีใช้ในการเพิ่มพูนเรื่องรายได้ พัฒนาศักยภาพและบทบาทสตรี เพื่อให้สตรีมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยคณะทำงานขับเคลื่อนฯ ต้องโน้มตัวลงไปสื่อสาร ลงไปพูดคุย เอาใจใส่สมาชิกกองทุนฯ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพสมาชิก ด้วยการส่งเสริมให้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา ให้เป็นวิถีชีวิต ปลูกข้าวที่แปลงนา ปลูกไว้ให้ตัวเองได้กิน หนองไว้เก็บน้ำ เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด ปลูกผักบุ้ง ผักกะเฉด โคกไว้ปลูกมะนาว สะตอ เงาะ ลูกเหนียง รวมถึงส่งเสริมการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนในทุกครัวเรือน เพื่อให้เศษอาหาร ขยะเปียกย่อยสลายเป็นปุ๋ยหมักบำรุงดิน บำรุงพืชผักสวนครัว ซึ่งจะทำให้ลดรายจ่ายในครัวเรือน และสร้างรายได้ให้กับสมาชิกกองทุนฯ อีกด้วย
“ต้องทุ่มเทในการสร้างทีมที่ดี มาช่วยในการทำงาน ดังเช่น จังหวัดอ่างทอง แพร่ และจังหวัดสุโขทัย ได้ทำเป็นแบบอย่าง สามารถลดมูลหนี้ลงได้เหลือไม่เกินร้อยละ 10 เพราะคณะทำงานขับเคลื่อนฯ ทุกท่าน คือ ผู้นำทีมในการบริหารจัดการแผนงาน ควบคุมกิจกรรมทุกกิจกรรมในปฏิทิน (Timeline) เช่น วางแผนไปเยี่ยม ไปตรวจสอบ ไปสอดส่อง ไปคอยเตือนสมาชิก จัดประชุมปรึกษาหารือ พูดคุยกัน มีเจ้าหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ใช้กลเม็ดเด็ดพรายหรือวิธีการดี ๆ ที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่จังหวัดของตนเอง ทำให้สมาชิกได้ตื่นตัว พัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือไตรมาสละครั้ง เพราะการลงไปพูดคุย นอกจากจะเป็นการลงไปติดตามความก้าวหน้าแล้ว ยังเป็นโอกาสได้ไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเรื่องอื่น ๆ เช่น การน้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหาร ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัวในทุกครัวเรือน และการขับเคลื่อนเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมด้วยการจัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน เป็นต้น นอกจากนี้ แม้ว่ากองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะมีความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องสมาชิกกองทุนที่มีประมาณ 15 ล้านคน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทุกท่านที่ได้รับเลือกมาเป็นคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพราะทุกท่านคือกลไกในการทำให้การบริหารจัดการกองทุนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เพราะทุกท่านที่ได้รับคัดเลือก เป็นผู้มีความรู้ มีความเสียสละ พร้อมช่วยเหลือพี่น้องสมาชิกทุกคน เป็นที่พึ่งของหมู่มวลสมาชิก” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนฯ ให้ความสำคัญกับตัวท่านเองว่าท่านเป็นความหวังของรัฐบาล ของประเทศชาติ ที่จะช่วยทำให้วัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ นั่นคือ เงินของรัฐบาลจะเกิดประโยชน์กับสมาชิกกว่า 15 ล้านคน ที่จะมีโอกาสนำไปใช้ในการลงทุนประกอบอาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ และต้องไม่ลืมสิ่งสำคัญคือ “การสร้างทีมภาคีเครือข่าย” เพื่อช่วยกันทำให้พี่น้องสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้มีแหล่งทุน มีเงิน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเอง และส่งเงินคืนเพื่อสร้างโอกาสให้กับสมาชิกคนอื่น ๆ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองและครอบครัวให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
ภาพ : กองสารนิเทศ สป.มท. และ กลุ่มงานสื่อสารภาพลักษณ์องค์กร สำนักเลขานุการกรม กรมการพัฒนาชุมชน
ข่าว : งานเครือข่ายสัมพันธ์ กลุ่มพัฒนาศักยภาพกองทุน สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
อ้างอิง : กองสารนิเทศ สป.มท.
#๙๐พรรษาสมเด็จแม่ของแผ่นดินร่วมสร้างความดีถวาย
#กรมการพัฒนาชุมชน
#๑๓๐ปีกระทรวงมหาดไทย_บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SDGsforAll
#ChangeforGood
#กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
กรมการพัฒนาชุมชน ชั้น ๓ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
งานยุทธศาสตร์และแผนงาน 02-1413092 งานอำนวยการ/บุคคล 02-1413088 งานการเงินและบัญชี 02-1413077 งานกฏหมาย 02-1413056 งานเครือข่ายสัมพันธ์ 02-1413095 งานพัฒนาระบบเทคโนโลยี 02-1416537
สำนักงานเลขานุการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร 02-1413096 | This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ดำเนินการโดย สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน |