วันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์เชียงคาน รีสอร์ท อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้ นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
บรรยายหัวข้อ “เทคนิคการบริหารจัดการหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 3 มีนาคม 2566 วัตถุประสงค์ในการดำเนินการประชุมเพื่อส่งเสริมความรู้ให้คณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับภาค สามารถขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ วิธีการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของคณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับภาค กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จังหวัด) จำนวน 65 คน ประกอบด้วย หัวหน้าและคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด ๆ ละ 2 คน นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด ๆ ละ 1 คน และเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมี นางนวลจันทร์ ศรีมงคล ผู้ตรวจราชการกรม, นายนายคมสิทธิ์ สุริยวรรณ พัฒนาการจังหวัดเลย, นางสาวทิพย์วัลย์ ทันหา ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและสนับสนุนการบริหารงานพัฒนาชุมชน และนางสาวสิริกร ศรีทอง พัฒนาการอำเภอเชียงคาน ให้การต้อนรับ
นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กล่าวว่า บทบาทหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของสตรีไทย คือ การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีความรักและความปรารถนาดีแก่พสกนิกรชาวไทย เพราะทุกพระองค์ทรงปรารถนาอยากให้พวกเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ด้วยการทำหน้าที่ของสตรีไทยที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้พระราชทานไว้อย่างชัดเจน 4 ประการ คือ 1) พึงทำหน้าที่เป็น “แม่ที่ดีของลูก” เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก ให้ความรัก ความอบอุ่น ดูแลให้ลูกหลานของเราได้เติบโตมีคุณภาพ ได้รับการศึกษา เป็นคนดีของสังคม 2) พึงเป็น “แม่บ้าน” ทำหน้าที่ดูแลบ้านของเราให้อยู่เย็นเป็นสุข ทำให้บ้านมีความน่าอยู่ของสมาชิกในครอบครัว ช่วยเก็บออมและเพิ่มพูนทรัพย์สินให้ครอบครัว รวมทั้งให้ความช่วยเหลือแก่คนรอบข้างตามสมควร 3) พึงพัฒนาตนเองให้มีความทันสมัย เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง 4) สืบสาน อนุรักษ์วัฒนธรรมของชาติไทยของเราให้สืบสานส่งต่อไปยังลูกหลานต่อไป ซึ่งทั้ง 4 ประการนี้ ล้วนเป็นหน้าที่สำคัญของสตรีโดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้ คือ การพัฒนาตนเองให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่เราจะได้ช่วยกันส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับสตรีได้มีบทบาทเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้น
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มีวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ เพื่อ ส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ และส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพและบทบาทของสตรีผ่านเงินทุนประเภทเงินทุนหมุนเวียนและเงินอุดหนุน ซึ่งได้มีการจัดสรรให้กับพื้นที่เพื่อให้พี่น้องสตรีได้ใช้ประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี แต่ในขณะเดียวกันการบริหารจัดการหนี้เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการหนี้ก่อนควบรวม (ปี 2556 - 2559) และหนี้หลังควบรวม (ปี 2560- 2565) กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้ให้ความสำคัญทั้งการบริหารจัดการหนี้ที่สามารถบริหารจัดการได้ลดลงและการรับเงินชำระคืนในปีบัญชี 2566 ซึ่งปัจจัยที่จะช่วยส่งผลให้การบริหารจัดการหนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบด้วย การได้รับเงินชำระคืนจากสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มาตรการช่วยเหลือสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และการดำเนินคดี แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนระดับจังหวัดและอำเภอรวมทั้งกลไกขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีทุกระดับมีความสำคัญในการขับเคลื่อนงานการบริหารจัดการหนี้ เนื่องจากเป็นหน่วยขับเคลื่อนที่ใกล้ชิดและสามารถเข้าถึงสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีได้มากที่สุด
นอกจากนี้ ยังขอให้คณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับภาคขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตั้งแต่ต้นน้ำ (การบริหารโครงการ) กลางน้ำ (การบริหารสัญญา) และปลายน้ำ (การบริหารหนี้) เพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ และการเป็นกองทุนดอกเบี้ยต่ำของสตรีเพื่อสตรีได้อย่างยั่งยืน พร้อมเน้นย้ำว่า “ตำแหน่งคณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีของทุกท่านมีวาระในการดำรงตำแหน่ง แต่เรื่องราวการขับเคลื่อนงานของทุกท่านที่ทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ จะยังเป็นที่จดจำอย่างน่าประทับใจ เช่นคำกล่าวที่ว่า ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่ได้ตลอดไป”
ภาพ/ข่าว : งานเครือข่ายสัมพันธ์ กลุ่มพัฒนาศักยภาพกองทุน
#๙๐พรรษาสมเด็จแม่ของแผ่นดินร่วมสร้างความดีถวาย
#กรมการพัฒนาชุมชน
#๑๓๐ปีกระทรวงมหาดไทย_บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SDGsforAll
#ChangeforGood
#กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี