วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น.
ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการไกล่เกลี่ยและลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (นายเจนเจตน์ เจนนาวิน) โดยนายพนม สิงห์สาย พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี เป็นผู้กล่าวรายงาน
ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน ประกอบด้วย นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาชุมชน นำทีมโดย นายกัมปนาทจักรวาล วิเวก ศรีพุทธา นายคมกริช ชินชนะ นายสุรพล แก้วอินธิ ผู้ตรวจราชการกรม ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี นางนวลจันทร์ ศรีมงคล นายสมาน พั่วโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันการพัฒนาชุมชน ดร.ประดิษฐ์ นัดทะยาย พัฒนาการจังหวัดหนองคาย นางสาวอัญชนิดา กมลเพ็ชร พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น นางแสงตะวัน แก้วอำไพ ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและสนับสนุนการบริหารงานพัฒนาชุมชน รักษาการ พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู และนายวีระพล ปักคำไทย ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและยุทธศาสตร์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เข้าร่วมกิจกรรม
นายวันชัย คมเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทางกรมการพัฒนาชุมชน ได้ให้เกียรติเลือกจังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดนำร่องในการดำเนินโครงการไกล่เกลี่ยและลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดอุดรธานี เป็นดินแดนแห่งอุทยานประวัติศาสตร์ซึ่งเป็นมรดกโลก ประกอบด้วย 20 อำเภอ 155 ตำบล เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจุดเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับในด้านการส่งเสริมการขับเคลื่อนงานด้านพัฒนาชุมชน การดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ โคก หนอง นา การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ผ่านกิจกรรม "ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน" จำนวน 2,088 หมู่บ้าน การส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามโครงการ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ตามพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยมียอดจำหน่าย ณ เดือนมิถุนายน 2566 จำนวนกว่า 24 ล้านบาท มีการส่งผ้าเข้าร่วมประกวดผ้าลายดอกรักราชกัญญาและงานหัตถกรรมประจำปี 2566 จำนวน 205 ผืน งานหัตถกรรม จำนวน 2 ชิ้น ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภารกิจที่กรมการพัฒนาชุมชนมุ่งหวังให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับพี่น้องประชาชน ในการดำเนินงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จังหวัดอุดรธานี มีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีประเภทบุคคล จำนวน 300,429 คน และสมาชิกประเภทกลุ่มองค์กร จำนวน 949 องค์กร จัดสรรเงินทุนหมุนเวียนให้กับสตรีนำไปประกอบอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ จำนวน 2,530 โครงการ เป็นจำนวนเงิน 278,747,880 บาท มีผลการบริหารจัดการหนี้เกินกำหนดชำระ อยู่ที่ ร้อยละ 49.20 ซึ่งได้กำชับและขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการนำมาตรการของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ได้ประกาศออกมาช่วยเหลือลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ไม่ว่าจะเป็น มาตรการลด/งด ดอกเบี้ยผิดนัด มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ กรณีลูกหนี้ผิดนัด มาตรการปลดหนี้รายบุคคล และล่าสุดได้มีมาตรการลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2566
ทั้งนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “กรมการพัฒนาชุมชน มุ่งเน้นเรื่อง การส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง ถ้าสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ ให้พี่น้องประชาชนได้กินดี อยู่ดี มีความสุข ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง คุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนก็จะดีขึ้น และเมื่อเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ผลิตภัณฑ์ชุมชนมีช่องทางการตลาดที่จำหน่ายได้ วัยแรงงานในชุมชนที่ไปประกอบอาชีพต่างถิ่นฐานก็จะย้ายกลับมาอยู่บ้าน ซึ่งจะทำให้เกิดการผสมผสานของคนหลากหลายวัยที่สามารถนำภูมิปัญญากับศักยภาพของคนรุ่นใหม่ มาช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และช่วยกันพัฒนาชุมชนให้เศรษฐกิจของชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน การสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ สามารถนำผักที่เราปลูกมารับประทานและสามารถนำไปแบ่งปันและขายภายในชุมชนได้ การรณรงค์ส่งเสริมการสวมใส่ผ้าไทย เป็นการช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจฐานรากเติบโต คนในชุมชนสามารถมีรายได้เพิ่มขึ้นจากภูมิปัญญาการทอผ้า การออกแบบ และการแปรรูป ที่ผ่านมากรมการพัฒนาชุมชนได้ทำ MOU กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่หลากหลายและส่งเสริมการเรียนรู้การทอผ้าด้วยการย้อมสีธรรมชาติ เนื่องจากเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและจะทำให้ทรัพยากรธรรมชาติคงอยู่อย่างยั่งยืน”
การขับเคลื่อนงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นอีกหนึ่งภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชนที่ผู้บริหารให้ความสำคัญและติดตามการขับเคลื่อนงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของพี่น้องสตรีในพื้นที่ กลไกการขับเคลื่อน ภาคีเครือข่าย สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน มีส่วนสำคัญที่จะทำให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเกิดความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมร่วมกันของทั้งองคาพยพ เกิดประโยชน์สูงสุดกับสตรีในพื้นที่ จังหวัดอุดรธานี มี 20 อำเภอ หากทุกอำเภอสามารถขับเคลื่อนงานและบูรณาการร่วมกันได้และชุมชนเกิดความเข้มแข็งในระดับตำบล อำเภอ ภาพรวมของจังหวัดก็จะเข้มแข็งไปด้วย อยากให้ยึดความสามัคคีในการขับเคลื่อนงานและการพัฒนาจะเกิดการพัฒนาได้ต้องเริ่มต้นจากความสามัคคี สุดท้ายขอจงอย่าลืมว่า “พัฒนาชุมชน คือ การทำงานด้วยกัน ร่วมสร้างสรรค์งานพัฒนาด้วยกัน” ขอขอบคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ พัฒฯาการจังหวัด นายอำเภอ พัฒนาการอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำ องค์กร ภาคีเครือข่าย กลไกการขับเคลื่อน และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกคนที่ได้ร่วมจัดงานในวันนี้ และขอให้ร่วมกันขับเคลื่อนการบริหารจัดการหนี้ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้ลดลงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อธิบดี พช. กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ นายสุรพล แก้วอินธิ และเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ได้ทักทาย และให้ความรู้แก่สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เกี่ยวกับมาตรการลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ฯ พร้อมเน้นย้ำทิศทางการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแก่พัฒนาการอำเภอ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว โดยหากลูกหนี้ค้างชำระเต็มจำนวน
1. จ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยตามสัญญาทั้งหมดจะได้สิทธิ์งดดอกเบี้ยผิดนัด 100%
2. จ่ายเงินต้นไม่น้อยกกว่า 20% จะได้รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ยผิดนัด 90%
หากลูกหนี้ค้างชำระบางส่วน
1. จ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยตามสัญญาทั้งหมดจะได้สิทธิ์งดดอกเบี้ยผิดนัด 100%
2. จ่ายเงินต้น และดอกเบี้ยตามสัญญาทั้งหมด (ตามงวดที่ค้าง)จะได้รับสิทธิ์งดดอกเบี้ยผิดนัด 100%
3. จ่ายเงินต้นไม่น้อยกว่า 20% จะได้รับสิทธิ์ลดดอกเบี้ยผิดนัด 90%
ภายในงานดังกล่าว มีการมอบใบประกาศเกียรติคุณ อำเภอต้นแบบด้านการบริหารจัดการหนี้เกินกำหนดชำระกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ได้แก่ อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และการมอบป้ายคลินิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้กับ 20 อำเภอ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มอาชีพสมาชิกกองทุนฯ จำนวน 10 กลุ่ม และมีบริการคลินิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเคลื่อนที่เพื่อให้บริการแนะนำการเข้าร่วมมาตรการ การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และการสร้างวินัยทางการเงิน โดยได้รับเกียรติจากสำนักงานอัยการจังหวัดอุดรธานี และสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุดรธานี มีสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สนใจเข้าร่วมมาตรการฯ จำนวน 7 กลุ่ม และอีก 10 กลุ่ม ให้ความสนใจและจะดำเนินการ ณ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ
ภาพ/ข่าว : งานเครือข่ายสัมพันธ์ กลุ่มพัฒนาศักยภาพกองทุน สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
#MOI
#กระทรวงมหาดไทย
#SDGTH
#บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#cdd
#changeforgood
#กรมการพัฒนาชุมชน
#กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
#มหกรรมไกล่เกลี่ยและลดความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี