รมต.นลินีพอใจการทำประชาคมคัดเลือก กก.กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบลโปร่งใสประชาชนตื่นตัว (17/6/2012)
นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการจัดเวทีประชาคมคัดเลือกกรรมการสตรีระดับตำบล ระบุโปร่งใส ประชาชนมีความตื่นตัว พร้อมย้ำกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นของประชาชน มีความยั่งยืน และไม่เกี่ยวกับการเมือง
วันนี้ (17 มิ.ย.) เวลา 08.30 น. นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี พร้อมด้วยนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย และนางสาวเรณู ตังคจิวางกูร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เดินทางไปยังจังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการจัดเวทีประชาคมคัดเลือกกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับตำบล ซึ่งมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันนี้ โดยมีนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี และหัวหน้าส่วนราชการของจังหวัดให้การต้อนรับโดยจุดแรกที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปพบปะกับประชาชน คือ บริเวณศาลาอเนกประสงค์ ชุมชนสุเหร่ามุสลิม หมู่ที่ 6 ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด ซึ่งเป็นตำบลที่มีสตรีสมัครเป็นสมาชิกของกองทุนฯ มากที่สุดในอำเภอปากเกร็ด และวันนี้มีสตรีมารวมตัวกันเพื่อทำประชาคมกว่า 200 คน โดย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้กล่าวทักทายกับชาวบ้าน และแนะนำให้ทุกคนเตรียมพร้อมเพื่อรวมกลุ่มกัน 5 คน จัดทำโครงการและเสนอของบประมาณจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในการสร้างงานสร้างอาชีพ พร้อมทั้งได้เยี่ยมชมจุดลงทะเบียนสมาชิกที่เดินทางมาในวันนี้
จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยังศาลาประชาคม วัดบางรักน้อย หมู่ที่ 3 ต.บางรักน้อย อ.เมือง และได้พูดคุยกับสตรีที่มาร่วมทำประชาคมกว่า 100 คน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังห้องประชุมของวัดบางอ้อยช้าง อ.บางกรวย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการเสนอชื่อสมาชิกเพื่อคัดเลือกตัวแทนเป็นกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทของชุมชน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า วันนี้ รู้สึกดีใจที่ได้เห็นสตรีทุกคนมีความตื่นตัวและให้ความสนใจกับการทำประชาคมเพื่อคัดเลือกกรรมการกองทุนฯ ในระดับตำบล ทั้งผู้ที่ลงทะเบียนก่อนวันที่ 1 เมษายน 2555 ซึ่งมีสิทธิสมัครเป็นคณะกรรมการ และผู้ที่สมัครหลังจากวันดังกล่าว ซึ่งมาร่วมสังเกตการณ์การทำประชาชนกันเป็นจำนวนมาก อยากให้ประชาชนแสดงเจตนารมณ์เพื่อเลือกผู้แทนของตนเองอย่างบริสุทธิ์ใจและเป็นตัวแทนของชุมชนอย่างแท้จริง การคัดเลือกตัวแทนของหมู่บ้านและชุมชนเป็นกรรมการกองทุนระดับตำบลที่จ.นนทบุรี จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่จังหวัดอื่น นอกจากนี้ ยังได้ฝากให้ทุกคนเชิญชวนสตรีไทยที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกองทุนฯ ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการเลือกกรรมการของชุมชนไปแล้ว เพื่อให้สตรีสามารถรวมกลุ่มกัน 5 คน เสนอของบประมาณจากโครงการของตนเองในการฝึกอบรม พัฒนาอาชีพ และช่วยเหลือดูแลสตรีที่ขาดโอกาส พร้อมกับย้ำว่า สาเหตุที่ต้องกำหนดอายุของผู้ที่จะมีสิทธิลงทะเบียนเป็น 15 ปีนั้น ก็เนื่องจากสตรีที่มีอายุในระดับนี้ เปลี่ยนคำหน้านามจากเด็กหญิงเป็นนางสาว มีความเป็นผู้ใหญ่พอที่จะตัดสินใจและมีภาวะผู้นำ เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาชุมชนและจังหวัดของตนเองได้
ต่อจากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ร่วมเป็นสักขีพยาน การเสนอชื่อและคัดเลือกกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีบริเวณชุมชนวัดบางอ้อยช้าง หมู่ 2 ซึ่งมีกำนันสตรีของตำบล เป็นผู้ดำเนินการทำประชาคม โดยสมาชิกได้เสนอชื่อ นางสาววรรณวิมล รอดนาค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและเลขานุการกองทุนหมู่บ้านฯ ของต.บางศรีทอง และนางสุคนธ์ ท้วมมา นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมการข้าว เป็นผู้แทนของชุมชน และมีผู้รับรองถูกต้อง ซึ่งภายหลังการนับคะแนนโดยการให้สมาชิกยกมือออกเสียงเลือกกรรมการนั้น ปรากฏว่า นางสาววรรณวิมล ได้รับความไว้วางใจให้เป็นกรรมการกองทุนฯ ของชุมชน ด้วยคะแนน 43 เสียง ส่วนนางสุคนธ์ ได้รับคะแนน 1 เสียง
นางสาววรรณวิมล กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ทุกคนให้ความไว้วางใจเลือกตนเป็นกรรมการกองทุนฯ ของชุมชน จากนี้ไปจะขอเข้ามาทำงาน เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน สร้างงาน สร้างรายได้ และทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี รวมทั้งช่วยเหลือพี่น้องในชุมชนต่อไป
อย่างไรก็ตาม นางสุคนธ์ ท้วมมา ได้ตั้งคำถามต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจะมีความยั่งยืนเพียงใด และจะแปรเปลี่ยนไปตามนโยบายทางการเมืองหรือไม่ โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงว่า กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีเจตนารมณ์ที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่สตรีไทยทุกคน เป็นการหยิบยื่นโอกาสให้สตรีไทยเข้มแข็ง โดยได้นำข้อบกพร่องของกองทุนหมู่บ้านฯ ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้มาเป็นแนวทางในการพัฒนาให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีความยั่งยืน จะสังเกตได้ว่า ในระยะแรกของการจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านฯ อาจมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่เมื่อดำเนินการไปได้ 2 ปี กองทุนจึงเริ่มมีความมั่นคง มีการออกพระราชบัญญัติขึ้นมารองรับ ทำให้ปัจจุบันกองทุนหมู่บ้านฯ มีการพัฒนามากขึ้น และสามารถต่อยอดเงินที่บริหารโดยหมู่บ้านหรือชุมชนได้หลายแสนล้านบาท จึงอยากให้ประชาชนหมดความกังวลในเรื่องนี้ และเข้ามาร่วมพิสูจน์ด้วยการสมัครเป็นสมาชิกกองทุน โดยชุมชนจะมีตัวแทนอย่างน้อย 1 คน เข้าไปบริหารเงินกองทุน ทำให้สตรีได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน
และภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ทั้ง 3 จุด ในวันนี้ พบว่า ประชาชนมีความตื่นตัวกันเป็นอย่างมาก และการทำประชาคมมีความโปร่งใส และมีการเตรียมตัวที่ดี โดยมีทั้งผู้ที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนและผู้ที่ปฏิเสธเพราะมีความจำเป็นอื่น ไม่ได้มีการกำหนดตัวบุคคลไว้ล่วงหน้า ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ อย่างเช่นคุณวรรณวิมล ก็เคยดูแลกองทุนหมู่บ้านฯ มาก่อน ซึ่งจะสามารถช่วยกลั่นกรองโครงการต่าง ๆ ของชุมชน และเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาสตรีในชุมชนและประเทศได้ ขณะนี้ ได้มีการคัดเลือกกรรมการกองทุนระดับตำบล และคัดเลือกองค์กรสตรีเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการระดับชาติแล้ว และในวันที่ 24 มิถุนายนนี้ จะมีการคัดเลือกกรรมการกองทุนในระดับจังหวัด โดยภาพรวมมีผู้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแล้วกว่า 13 ล้านคน และตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีกำหนดสิ้นสุดการรับสมัคร จากนี้ไปขอให้สมาชิกกองทุนฯ เตรียมรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อเสนอโครงการ ทั้งการฝึกอบรม เช่น การใช้งานคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต หรือเข้าถึงแหล่งเงินทุนสร้างรายได้และความเข้มแข็งของตนเองและชุมชน ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้พร้อมแล้ว
“ขอเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นผู้นำในการดูแลโครงการ แสดงความเป็นเจ้าของกันอย่างเต็มที่ นำเงินมาสู่ชุมชน และสร้างประโยชน์ในด้านต่าง ๆ และขอย้ำว่า ทางราชการไม่ได้บังคับชี้นำ และไม่มีความเกี่ยวข้อง เพียงแต่อาจเข้าไปให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ เพระกองทุนเป็นของประชาชนโดยสมบูรณ์” รัฐมนตรีนลินี กล่าว
………………………………..
อิทธิเดช สุพงษ์
สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
คณะทำงาน รมต.นร
สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
กรมการพัฒนาชุมชน ชั้น ๓ อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
งานยุทธศาสตร์และแผนงาน 02-1413092 งานอำนวยการ/บุคคล 02-1413088 งานการเงินและบัญชี 02-1413077 งานกฏหมาย 02-1413056 งานเครือข่ายสัมพันธ์ 02-1413095 งานพัฒนาระบบเทคโนโลยี 02-1416537
สำนักงานเลขานุการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร 02-1413096 | This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ดำเนินการโดย สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กรมการพัฒนาชุมชน |